วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2561

ข่าวที่ 13

สารเคมีรั่วในสระว่ายน้ำ
หามเด็กส่ง รพ. นับสิบราย


            เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพต้องระดมกำลังมาช่วยเหลือเด็กนักเรียนกว่า 20 คน ที่สำลักกลิ่นเหม็นของสารเคมีที่ใช้ในการทำความสะอาดสระว่ายน้ำ ภายในสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น หลังสารเคมีที่ผสมเตรียมไว้เกิดปฏิกิริยารั่วออกมา ขณะที่เด็กกำลังเรียนว่ายน้ำภาคฤดูร้อน  โดยเจ้าที่กู้ภัยนำเด็กที่สูดกลิ่นเหม็นของสารเคมีนำส่งโรงพยาบาลขอนแก่น จำนวน 9 ราย ส่วนที่เหลือผู้ปกครองได้มารับตัวนำกลับบ้าน สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากถังผสมสารเคมีสำหรับใช้ในการตกตะกอน ที่เจ้าหน้าที่ดูแลสระว่ายน้ำผสมไว้สารเคมีสำหรับให้น้ำตกตะกอน ประกอบด้วย โซดาแอช จุนสี สารส้ม ได้ทำปฏิกิริยาขึ้น แล้วเกิดควันพุ่งออกจากถังผสมสารเคมี จึงทำให้กลิ่นฟุ้งกระจายไปทั่วสระว่ายน้ำที่ขณะนั้นมีเด็กกำลังเรียนว่ายน้ำ ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เขต6 ขอนแก่น ได้นำเครื่องดูดกลิ่นออกจากตัวอาคาร เพื่อเตรียมเข้าไปดูจุดห้องผสมสารเคมี โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถไล่กลิ่นเหม็นคลอรีนออกจากพื้นที่สระว่ายได้ทั้งหมด
ความคิดเห็น : สารเคมีควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยละเลย
ที่มา : Sanook

ข่าวที่ 12

สารเคมีที่ห้ามใช้ในอาหาร



ชนิดสารเคมี (วัตถุเจือปน) ที่ห้ามใช้ ในอาหาร
1.สารฟอกขาวอันตรายต่อร่างกาย 
- จะเกิดอาการปวดท้อง เวียนศรีษะ อาเจียน อุจจาระร่วง ความดันโลหิตต่ำ 
- ผู้ที่แพ้อย่างรุนแรง หรือผู้ป่วยโรคหอบหืด จะเกิดอาการช็อค หมดสติ และเสียชีวิต
ชนิดอาหารที่พบ - น้ำแช่ผักผลไม้ เช่น ถั่วงอก ขิงฝอย ยอดมะพร้าว หยวกกล้วย กล้วยดิบ ฯลฯ 
- ผัก ผลไม้แปรรูป เช่น ทุเรียนกวน หน่อไม้ดอง ขิงดอง สับปะรดกวน กะปิ ฯลฯ 
กฎหมายกำหนด ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 62/24 ,84/27 สามารถเจือปนได้ในอาหารบางชนิด แต่สารฟอกขาวเป็นสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 
 
2.สารบอแรกซ์ อันตรายต่อร่างกาย - อาการเฉียบพลัน อาเจียน ท้องเสีย ผิวหนังร้อนแดง ชัก มีไข้สูง ตัวเหลือง ความดันลด หมดสติ ตายในที่สุด 
- อาการเรื้อรัง ได้แก่ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อาเจียน ผมร่วง ชัก และโลหิตจาง 
- ทำให้ทางเดินอาหารเกิดการระคายเคือง 
- เป็นพิษต่อไต และสะสมในสมอง 
ชนิดอาหารที่พบ 
- เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ ( หมูบด ปลาบด ทอดมัน ลูกชิ้น หมูสด เนื้อสด ไส้กรอก ฯลฯ) 
- ผลไม้ดอง 
- ทับทิมกรอบ ลอดช่อง 
กฎหมายกำหนด - ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 151 ( พ.ศ.2536 ) กำหนดให้สารบอแรกซ์เป็นสารที่ห้ามใช้ในอาหาร ผู้ฝ่าฝืนมีโทษให้ปรับไม่เกิน 20,000 บาท 
- พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 กำหนด บอแรกซ์เป็นสินค้าควบคุมฉลาก ต้องมีข้อความ 
ความคิดเห็น : สารบางอย่างที่กินได้อาจไม่ดีต่อสุขภาพหากกินไปเป็นเวลานาน
ที่มา : Sanook

ข่าวที่ 11

อันตราย! ผักไทยพบสารเคมีตกค้าง
เกือบ 100% แทบทุกชนิด


            ไม่ว่าจะช่วงเทศกาล
กินเจ หรือช่วงปกติ การทานผักเป็นเรื่องที่เราควรทำเป็นประจำ เพื่อสุขภาพที่ดี แต่ข่าวร้ายคือ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล (รพ.ศิริราช) ตรวจพบสารเคมีตกค้างจากยาฆ่าแมลงในผักสดของไทยหลายชนิด ที่เกินค่ามาตรฐานไปมาก กล่าวคืออยู่ที่ 85-100% เลยทีเดียว นับว่าเป็นตัวเลขที่น่ากลัว จนต่างประเทศรับไม่ได้อย่างแน่นอน เเละตรวจพบผักที่มีสารเคมีจากยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่หลายชนิด เช่น ผักคะน้า พบสารเคมีตกค้างอยู่ที่ 85% ผักบุ้งจีน 98% ผักกวางตุ้ง 99% และกะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ แตงกวา พบมากถึง 100% เรียกได้ว่าพบสารเคมีตกค้างทุกแหล่งผลิตเลยก็ว่าได้ เพราะคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล (รพ.ศิริราช) สุ่มเก็บตัวอย่างมาทดสอบจากกว่า 100 แห่ง จากหลายจังหวัดทั่วประเทศ และในทุกฤดูกาลเลยทีเดียว

เคล็ดลับการล้างผักผลไม้ เพื่อลดสารพิษ ยาฆ่าแมลง สารเคมีตกค้างต่างๆ1. ล้างผักผลไม้ด้วยด่างทับทิม ช่วยลดปริมาณสารตกค้างในผักผลไม้ได้ 20-30%
2. ล้างด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชู ช่วยลดปริมาณสารตกค้างในผักผลไม้ได้ 30-40%
3. ล้างด้วยน้ำผสมผงฟู หรือเบกกิ้งโซดา ช่วยลดปริมาณสารตกค้างในผักผลไม้ได้ 30-40%
4. ล้างผักด้วยวิธีน้ำไหล โดยแยกใบผัก กลีบผักออกมา แช่ในน้ำ 10 นาที จากนั้นหยิบใบผักขึ้นมา เปิดก็อกให้น้ำไหลผ่านผักและผลไม้ทีละใบ ทีละก้าน ถูๆ ให้สะอาดราว 2 นาที วิธีนี้ช่วยลดปริมาณสารตกค้างในผักผลไม้ได้ 60-70%
ความคิดเห็น : ก่อนกินอาหารอะไรก็ตามเราต้องล้างน้ำให้สะอาดเสียก่อนทาน
ที่มา : Sanook

ข่าวที่ 10

หนุ่มคลั่งบุกสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
ทุบห้องสารเคมีพัง หวิดดับเอง


            เมื่อเวลา 07.30 น. (31 มี.ค. 61) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแสนสุข ได้รับแจ้งจาก รปภ.ว่า มีคนคลุ้มคลั่งบุกเข้ามาภายในสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา และทุบกระจกแตกหลายจุด เจ้าหน้าที่จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมกับ รปภ. พบชายอายุประมาณ 25 ปี อยู่ในอาการคล้ายคนเมายา โดยเจ้าหน้าที่ รปภ.พยายามเข้าไปใกล้ หนุ่มคนดังกล่าวก็มีอาการตื่นตกใจและวิ่งหนีเข้าไปภายในห้องจุลชีวะ ซึ่งเป็นห้องสารเคมีและห้องเก็บตัวอย่างสัตว์ทะเลและพืชชนิดต่างๆ รวมถึงมีอุปกรณ์ต่าง ๆ เครื่องตรวจสภาพน้ำและอื่นๆ ซึ่งบางอย่างมีราคาแพงเพราะต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ โดยชายคนดังกล่าวทุบกระจกและเข้าไปภายในห้องและทุบทำลายข้าวของทุกอย่างจนพังเละ ส่วนชายคนดังกล่าวก็ได้รับบาดเจ็บถูกกระจกบาดที่มือจนเลือดไหลนองเต็มห้อง เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปควบคุมตัวแต่เข้าไปไม่ได้เนื่องจากห้องดังกล่าวเป็นห้องเก็บสารเคมีซึ่งมีกลิ่นแรงมากไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ชายคนดังกล่าวนอนนิ่งอยู่ข้างในห้องเกรงจะเสียชีวิตเพราะสารเคมี รปภ.จึงจะพยายามเข้าไปช่วย จนกระทั่งชายคนดังกล่าวพยายามเดินออกมาและนอนอยู่หน้าห้อง หัวหน้า รปภ.จึงพยายามเข้าไปเกลี้ยกลอมจนกระทั่งชายคนดังกล่าวยอมออกมาจากห้อง มีอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง มีบาดแผลที่แขนและมือ จากการสอบถามทราบว่าชื่อนาย พิทักษ์ อายุ 26 ปี เป็นคนจังหวัดหนองบัวลำภู มาทำงานก่อสร้าง รปภ.จึงรีบนำตัวส่ง โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยบูรพา ก่อนอายัดตัวสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ความคิดเห็น : ยาเสพติดเป็นโทษกับตัวเองเเละผู้คนรอบข้าง
ที่มา : Sanook

ข่าวที่ 9

ระทึก! สารเคมีรั่วกรุงเทพกรีฑา-เร่งตรวจสอบ

            เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุพบสารเคมีถูกทิ้งลงแหล่งน้ำ บริเวณหน้า บริษัท คอมฟอร์ม จำกัด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สำนักอนามัย เจ้าหน้าที่เขตสะพานสูง ดับเพลิงหัวหมาก และห้วยขวางรุดที่เกิดเหตุ พร้อมนำเครื่องตรวจวัดสารเคมีเพื่อตรวจสอบ พบเป็นสารเคมีรั่วไหลออกมากจากบริษัท คอมฟอร์ม จำกัด ลงไปที่บริเวณบ่อระบายน้ำด้านหน้าบริษัทจำนวน 3 บ่อ ทำให้น้ำในบ่อที่ 1 และบ่อที่ 2 ลักษณะของน้ำเป็นสีชมพู และบ่อที่ 3 ลักษณะเป็นสีดำมีคราบน้ำมันปะปน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบชนิดของสารเคมีดังกล่าว และป้องกันสารเคมีรั่วไหลลงสู่คลองสาธารณะ ทั้งนี้ ได้มีการกั้นบริเวณโดยรอบเพื่อป้องกันเหตุและห้ามประชาชนเข้าใกล้ในพื้นที่
ความคิดเห็น : การทำงานใดๆ ควรรักษาสิ่งเเวดล้อมไม่ใช่ทำลาย
ที่มา : Sanook

ข่าวที่ 8

ระทึก! สารเคมีในโรงงานรั่ว
พนักงานหนีตายอลหม่าน


            เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยไตรคุณธรรมว่า มีเหตุสารเคมีรั่วไหล บริษัทไทยเมกิ 2012 จำกัด เลขที่ 700/676 ม.7 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี  มีพนักงานจำนวนมาก จึงรีดไปตรวจสอบทีเกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานเคลือบโลหะที่แท็งก์เก็บสารเคมีภายในโรงงาน มีสารสีเหลืองมีกลิ่นเหม็น พนักงานจำนวนกว่า 130 คน วิ่งหนีตายออกมานอกโรงงาน บางรายมีที่สูบดมเข้าไปมีอาการหน้ามืดเวียนหัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน จากการสอบตรวจพบว่าสารเคมีดังกล่าวเป็นกรดไนตริกเป็นของเหลวไม่มีสี กลิ่นฉุนรุนแรง และมีความเป็นกรดสูง จึงอาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังและผู้ที่สูดดม จากเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ความคิดเห็น : เมื่อเราทำงานในโรงงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสารเคมี เราควรมีอุปกรณ์ที่สามารถช่วยไม่ให้เราได้รับสารเคมีโดยตรงในขณะที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
ที่มา : Sanook

วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561

ข่าวที่ 7


4 อาชีพเสี่ยง "โรคผิวหนังจากสารเคมี"

            นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคผิวหนังที่เกิดจากสารเคมี เป็นโรคที่พบบ่อยมากในกลุ่มผู้ที่ทำงานก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม และอาชีพเกษตรกรรม เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้วัสดุและสารเคมีที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังอย่างแพร่หลาย มีการใช้งานที่ไม่เหมาะสม หรือหากสัมผัสถูกผิวหนังโดยตรงโดยไม่มีเครื่องป้องกัน จะทำให้เกิดการระคายเคืองเกิดผื่นคันภูมิแพ้ที่ผิวหนัง และอาจเป็นโรคผิวหนังได้

อาชีพเสี่ยงโรคผิวหนังจากสารเคมี
 1.คนงานก่อสร้างที่ผสมปูนซีเมนต์
 2.คนงานในโรงงานที่เกี่ยวข้องกับโลหะ เครื่องหนัง ยางสีย้อมผ้า กาวพลาสติก เส้นใยแก้ว สีพ่น รวมทั้งน้ำมันเบนซิน และน้ำมันเครื่อง
 3. คนที่ต้องทำงานสัมผัสกับอุปกรณ์ที่ทำจากโลหะชุบนิกเกิล งานอุตสาหกรรมทำเครื่องหนัง ดอกไม้พลาสติก
 4. เกษตรกรที่ต้องใช้ปุ๋ยสารกำจัดแมลงศัตรูพืช
วิธีป้องกันโรคผิวหนังจากสารเคมี     
    ผู้ที่ประกอบอาชีพดังกล่าวข้างต้นควรดูแลสุขภาพของตนเอง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้ควรระวังเป็นพิเศษ โดยสวมอุปกรณ์ป้องกันสารเคมีก่อนเริ่มปฏิบัติงาน เช่น สวมถุงมือที่ทำจากวัสดุพีวีซีหรือยาง ใช้ผ้ากันเปื้อน หรือสวมชุดป้องกัน เป็นต้นโดยเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงาน หากมีอาการแพ้หรือมีผื่นคันขึ้นตามผิวหนังให้รีบพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป
ความคิดเห็น : สารเคมีอันตรายมาก เราควรดูเเลเอาใจใส่ให้มากๆ
ที่มา : Sanook

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2561

ข่าวที่ 6


แอมโมเนียโรงน้ำแข็งภูเก็ตรั่ว 

จนท.ลุยปิดวาล์ว ไร้เจ็บ-ตาย


            เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 9 พ.ค. นายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้กลิ่นสารพิษลอยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณหน้าโรงน้ำแข็งแห่งหนึ่ง เกรงว่าอาจส่งอันตรายต่อร่างกาย ของคนในชุมชนใกล้เคียง เนื่องจากมีหมู่บ้านและที่พักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ใช้เวลากว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่สามารถปิดวาล์วของถังบรรจุแอมโมเนียที่อาจเกิดการรั่วไหลออกมาไว้ได้เป็นที่เรียบร้อย โดยไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายจากสารเคมีดังกล่าว ส่วนสาเหตุ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ความคิดเห็น : ควรตรวจ ดูเเล สารอันตรายพวกนี้เสมอ เพราะจะได้ไม่เกิดอันตรายภายหลัง


วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2561

ข่าวที่ 5


รัสเซียเร่งตรวจสอบ แม่น้ำใกล้
โรงงานนิกเกิลกลายเป็นสีเลือด

            สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิ่งแวดล้อมของประเทศรัสเซีย กำลังพยายามหาสาเหตุว่าทำไม แม่น้ำดัลดีคาน  ซึ่งอยู่ใกล้กับ โรงงานอุตสาหกรรมของบริษัท 'โนริลสก์ นิกเกิล' ซึ่งเป็นผู้ผลิตนิกเกิลและพัลลาเดียม รายใหญ่ที่สุดของโลก  จากนั้นไม่นานพวกเขาได้รับรายงานว่าแม่น้ำสายนี้ปนเปื้อนสารเคมีที่ยังไม่อาจระบุชนิดได้ และอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่โรงงานของ โนริลสก์ นิกเกิล ด้าน ผู้บริหารของโรงงาน โนริลสก์ นิกเกิล ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุในงานแถลงข่าวว่า จนถึงวันนี้ เจ้าหน้าที่ของบริษัทก็ยังไม่สามารถยืนยันว่าเกิดการรั่วไหลหรืออุบัติเหตุที่ทำให้ของเสียอุตสาหกรรมถูกปล่อยลงแม่น้ำดัลดีคาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสถานะของแม่น้ำ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทตัดสินใจที่จะลดการปฏิบัติงานลงชั่วคราว และตรวจสอบสถานะของสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยรอบโรงงานและบริเวณแม่น้ำที่ได้รับผลกระทบ

ความคิดเห็น : คำเเก้ตัวที่มีหลักฐานยืนยัน ยังไงก็ไม่มีคนเชื่อถือ




วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ข่าวที่ 4

อ.เจษฎาเตือน! สารเคมีจากเคสมือถือ
กลิตเตอร์อาจเสี่ยงผิวหนังไหม้-พุพอง

           
            มีรายงานข่าวจากต่างประเทศว่า เด็กหญิง 9 ขวบ เกิดเหตุของเหลวจากเคสโทรศัพท์มือถือรั่วไหล สัมผัสบนผิวหนังขณะนอนหลับทับเคส ตื่นเช้ามาพบรอยไหม้ และพุพอง เเละนอกจากนี้ 
ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังเตือนว่าหากผิวหนังสัมผัสของเหลวภายในเคสมือถือ ให้รีบล้างออกด้วยน้ำเปล่ามากๆ เพื่อป้องกันผิวหนังพุพองจากสารเคมี แม้ว่าจะยังไม่เคยมีรายงานอันตรายลักษณะนี้ในไทย แต่ในต่างประเทศมีคนเจอแล้วหลายราย ทั้งในอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฯลฯ จนเชื่อได้ว่าน่าจะเรื่องจริง ที่สำคัญที่ ไม่มีการเขียนเตือนไว้เลยที่กล่องสินค้า ว่าให้ระวังอันตรายจากสารเคมี แต่เท่าที่ลองซื้อมาจากร้านค้าทั่วไป แล้วเจาะเอามาทดสอบง่ายๆ พบว่า ของเหลวในนั้น มันมีกลิ่นฉุนรุนแรง นิ้วแตะๆ ดูแล้วรู้สึกร้อน ลองเอาไปเทราดเนื้อไก่ไว้ พบว่าเนื้อไก่เปื่อยยุ่ยใน 10 นาที จึงน่าจะฟันธงได้ว่า มันเป็นสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายได้จริงๆ ถ้ารั่วซึมออกมา

ความคิดเห็น : การใช้เคสมือถือกลิตเตอร์แบบนี้จึงควรระวังเป็นอย่างมาก อย่าไปทำให้มันแตกรั่วซึม ถ้าสัมผัสร่างกาย ให้ล้างออกด้วยน้ำเปล่าเยอะๆๆ

ที่มา : Sanook

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ข่าวที่ 3

ข้อควรรู้ก่อนทาลิปสติก อันตรายแฝงจากสารเคมีที่พร้อมส่งผลเสียต่อสุขภาพ

         
            ลิปสติกที่จะขอกล่าวถึงในที่นี้คือลิปสติกที่ถูกเติมแต่งด้วยสีสันอันฉูดฉาด เน้นเติมเสน่ห์เรียวปากให้ดูดี แต่ทว่าในความงามนี้กลับกลายเป็นดาบสองคม เพราะบางยี่ห้อปนเปื้อนอยู่ด้วยสารเคมีอันตรายอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวตามมาได้ ยิ่งสีสด ติดทนนาน ยิ่งเสี่ยงอันตราย ยิ่งสีสดแค่ไหน ก็ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเท่านั้น แถมบางยี่ห้อยังเคลมอีกด้วยว่าเป็นลิปสติกที่ติดทนนาน หารู้ไม่ว่ามันเต็มไปด้วยสารเคมีที่ไม่ควรสัมผัสถูกผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็น สารกันบูดที่มักผสมอยู่ในเครื่องสำอางทั่วๆ ไป, พาราเบน, เมธอะคริเลท, สารตะกั่วปนเปื้อน และไตรโครซาน ฯลฯ สารเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบฮอร์โมน เข้าไปรบกวนการทำงานของสมอง กล้ามเนื้อ และอัตราการเต้นของหัวใจ ทางที่ดีสาวๆ ควรหลีกเลี่ยงการทาลิปสติกสีเข้ม และหันมาทาลิปมันที่ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่นเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว 
ความคิดเห็น : ความสวยเป็นสิ่งที่ดี เเต่ก็อย่าใช้ให้มันเป็นดาบสองคมที่ทำร้ายตัวเราเอง
ที่มา : Sanook

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ข่าวที่ 2

กินเจระวัง! ผัก 10 ชนิดที่สารเคมีตกค้าง


     ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การกินผักเป็นเรื่องที่มีผลดีต่อสุขภาพ  แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือปัญหาการตกค้างของสารเคมีในผักที่อาจเข้าไปสะสมในร่างกาย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค ทำให้เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคต่างๆ เนื่องจากการเพาะปลูกของประเทศไทยในหลายพื้นที่ยังคงมีการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดศัตรูพืช และยังมีการตรวจพบการตกค้างของสารเคมีอยู่ในพืชผักอยู่เสมอ โดยเฉพาะผักสด 10 ชนิดที่มีการตกค้างของสารเคมีในปริมาณที่สูง ได้แก่ 1. กวางตุ้ง 2. คะน้า 3. ถั่วฝักยาว 4. พริก 5. แตงกวา 6. กะหล่ำปลี 7. ผักกาดขาวปลี 8. ผักบุ้งจีน 9. มะเขือ 10. ผักชี อีกทั้งยังมีการตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไลและเชื้อซาลโมเนลลา เป็นเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษ ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ก่อนกินหรือนำผักมาปรุงอาหาร ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง ให้ล้างผ่านน้ำก๊อกที่ไหลนาน 2 นาที หรือแช่ในน้ำผสมเกลือ หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชู ทิ้งไว้นาน 10-15 นาที หรือแช่ในน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 กะละมัง หรือน้ำประมาณ 4 ลิตร จากนั้นนำผักมาล้างน้ำสะอาดอีก 2-3 ครั้ง

ความคิเห็น : ผักเป็นสิ่งที่มีประโยชน์เเต่ก็มีโทษเรื่องสารเคมีเเฝงอยู่ ฉะนั้นก่อนรับประทานเราควรล้างน้ำให้สะอาดเสียก่อน

ที่มา : Sanook

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ข่าวที่ 1

รู้หรือไม่ ? ใครชอบแต่งหน้า 
เสี่ยงสะสมสารเคมี 2 กิโลต่อปี
       
            ปัจจุบันผู้หญิงถึง 70% แต่งหน้า และยิ่งเดี๋ยวนี้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เป็นเรื่องง่าย เพียงแค่คลิกเดียวสาวๆ ก็สามารถรับข้อมูลข่าวสารได้อย่างมากมาย ทำให้สามารถแต่งหน้าได้หลากหลายและสนุกยิ่งขึ้น โดยเลือกสไตล์การแต่งหน้าได้ตามแบบที่แต่ละคนชื่นชอบรู้กันหรือไม่ว่าในเครื่องสำอางที่ใช้กันอยู่แทบจะทุกวันนั้นมีส่วนประกอบของสารเคมีอยู่ระหว่าง 80 – 90% ซึ่งถ้าหากสาวๆ ไม่ดูแลปกป้องผิวหน้ากันอย่างดีแล้ว นอกจากจะได้ผิวหน้าหมองคล้ำ มีริ้วรอยเป็นของแถมแล้ว ยังเสี่ยงต่อการสะสมสารเคมีในร่างกายถึงปีละ 2 กิโลกรัม ซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับผิว ความผิดปกติด้านฮอร์โมน หรือแม้กระทั่งก่อเกิดมะเร็งได้ ประเด็นนี้คุณหมอโทนี่ วรพล สุขีวัฒนา ย้ำว่า การแต่งหน้าเยอะทุกวันทำให้ผิวหน้าได้รับออกซิเจนน้อยลงทำให้เซลล์เสื่อม และดูมีอายุก่อนวัย ถึงแม้จะมีการทำความสะอาดเป็นอย่างดีก่อนนอน ดังนั้นยิ่งผู้หญิงยิ่งแต่งหน้าหนามากเท่าไหร่ จะยิ่งสุ่มเสี่ยงต่อการดูแก่ก่อนวัยและผิวหมองคล้ำมากขึ้นเท่านั้น

ความคิดเห็น : การรักสวยรักงามเป็นสิ่งที่ดี เเต่ก็ควรทำให้มันอยู่ในขอบเขต อย่าให้ความสวยทำร้ายตัวคุณเอง

ที่มา : Sanook

ข่าวที่ 13

สารเคมีรั่วในสระว่ายน้ำ หามเด็กส่ง รพ. นับสิบราย             เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพต้องระดมกำลังมาช่วยเหลือเด็กนักเรียนกว่า 20 คน ที่...